อาลัว เป็นอีกหนึ่งขนมไทยสีพาสเทลที่หากินยาก แต่ถ้าใครจะทำกินเองมันง่ายมากเลยนะคะ
อาลัวขนมไทยนำเข้า
ขนมอาลัว เป็นขนมหวานที่ทำจากแป้ง ผิวด้านนอกจะเป็นน้ำตาลแข็ง ด้านในเป็นแป้งหนืด มักทำเป็นอันเล็กๆ มีหลายสี มีกลิ่นหอมหวาน ชื่ออาลัวมีความหมายว่าเสน่ห์ดึงดูดใจ อาลัวมีต้นกำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกส ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยครั้งแรกโดยคุณท้าวทองกีบม้า หรือ เลดี้ฮอร์ เดอควีมาร์ ภริยาเจ้าพระยาวิชเยนทร์ซึ่งเป็นชาวโปรตุเกสที่เข้ามารับราชการในราชสำนักในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขนมอาลัวยังแบ่งได้เป็นสองชนิด คือ อาลัวชาววัง และ อาลัวจิ๋ว อาลัวชาววังมีขนาดใหญ่กว่า และมีส่วนผสมของกะทิมากกว่าอาลัวจิ๋ว
ขนมอาลัว เป็นขนมหวานที่ทำจากแป้ง ผิวด้านนอกจะเป็นน้ำตาลแข็ง ด้านในเป็นแป้งหนืด มักทำเป็นอันเล็กๆ มีหลายสี มีกลิ่นหอมหวาน ชื่ออาลัวมีความหมายว่าเสน่ห์ดึงดูดใจ อาลัวมีต้นกำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกส ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยครั้งแรกโดยคุณท้าวทองกีบม้า หรือ เลดี้ฮอร์ เดอควีมาร์ ภริยาเจ้าพระยาวิชเยนทร์ซึ่งเป็นชาวโปรตุเกสที่เข้ามารับราชการในราชสำนักในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขนมอาลัวยังแบ่งได้เป็นสองชนิด คือ อาลัวชาววัง และ อาลัวจิ๋ว อาลัวชาววังมีขนาดใหญ่กว่า และมีส่วนผสมของกะทิมากกว่าอาลัวจิ๋ว
ส่วนผสมและอัตราส่วนจ้า
1. แป้งสาลี 1 1/4 ถ้วย
2. น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วย
3. น้ำกะทิ 2 1/2 ถ้วย
4. สีผสมอาหาร
5. เทียนอบขนม
มาดูวิธีทำเลยนะคะ
1. ร่อนแป้งสาลีกับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน
2. ค่อยๆเติมน้ำกะทิลงไปทีละน้อย
สลับกับการนวดแป้งไปด้วย จนกว่าจะเทน้ำกะทิลงไปหมด
3. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง หรืแกระชอนตาถี่
3. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง หรืแกระชอนตาถี่
4. เทส่วนผสมลงกระทะทองเหลืองแล้วนำตั้งไฟระดับกลาง กวนไปเรื่อยๆเร็วๆ ไปในทางเดียวกัน
5. พอแป้งเป็นสีใส แบ่งแป้งครึ่งหนึ่งออกมาพักไว้ ใส่สีผสมอาหารในกระทะทองเหลืองกวนให้เข้ากัน ปิดไฟพักไว้
6. นำแป้งส่วนแรกที่พักไว้แล้ว ใส่ถุงบีบ แล้วบีบใส่ถาด ทำเช่นเดียวกันกับส่วนผสมทั้ง 2 สี แล้วนำไปผึ่งแดดให้ข้างนอกแข็ง
7. ขั้นตอนสุดม้ายเพื่อความหอมของขนมไทย เอาไปอบควันเทียน โดยเอาขนมใส่ภาชนะกระเบื้องหรือพวกหม้อเคลือบ เรียงให้เป็นระเบียบ ไม่ต้องแน่นมาก จุดเทียนอบขนมแล้วเป่าดับใส่ในภาชนะ อบไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น